วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และ Green Productivity


ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และ Green Productivity


ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ ASEAN Economic Community (AEC) จะมีผลในปี 2558 นี้    เรื่องของ Green Productivity จะเข้ามามีส่วนในการสร้างความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันของผู้ประกอบการ เพราะจะเป็นกรอบที่ทำให้ผู้ผลิตที่อยู่ในประชาคมอาเซียนต้องมีการปรับกระบวนการผลิต เพื่อให้ทั้งกระบวนการเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

สำหรับประเทศไทยหากเข้าสู่การค้าเสรีอาเซียน (AEC)แล้ว จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตในประเทศไทย หลายด้านเช่น การลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบและแรงงานจากต่างประเทศ เปิดโอกาสในการส่งออกสินค้าไปขายยังหลายๆประเทศในอาเซียน แต่ผลกระทบในอีกด้านหนึ่งที่ประเทศไทยต้องเตรียมความพร้อม ได้แก่ ผลจากการลดภาษีนำเข้า ทำให้สินค้าของประเทศในอาเซียนที่จะเข้ามาขายในประเทศไทยจะมีราคาถูกลง การแข่งขันจะสูงขึ้น และมีโอกาสที่ผู้ผลิตบางรายอาจมีการโยกย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นในอาเซียนที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าของประเทศไทย  ดังนั้นผู้ผลิตของไทยต้องมีความพร้อมของความสามารถในการแข่งขัน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพจากการลดต้นทุน ผลิตสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ลดการสูญเสีย และมีคุณภาพการผลิตที่ดี วัตถุดิบที่ดี กระบวนการการผลิตที่ดีด้วย ซึ่งภาครัฐจะต้องให้การส่งเสริมภาคเอกชนให้สามารถพัฒนาตนเองได้

แนวโน้มกระแสสีเขียวเป็นแนวทางการบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน  การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นแนวโน้มที่สำคัญของการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบแนวความคิดของความยั่งยืนจะส่งผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผู้บริโภคในยุคปัจจบันให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมากขึ้น องค์กรหรือธุรกิจสีเขียวหลายแห่งได้ผนวกเอาแนวคิด Green เข้าไปประยุกต์ใช้ในทุกกระบวนการในห่วงโซ่คุณค่า นับตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบ การจัดซื้อสีเขียว บรรจุภัณฑ์สีเขียว การตลาดสีเขียว การขนส่งสีเขียว เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงการนำขยะหรือของเสียกลับมาใช้ใหม่ สอดคล้องกับแนวคิดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ที่ให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบจนกระทั่งหมดอายุการใช้งาน 
ดังนั้นประเทศไทย ควรนำเรื่องสิ่งแวดล้อมมาเป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น Eco Design การออกแบบเพื่อความยั่งยืน ลดการใช้วัตถุดิบ และทรัพยากร เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ พยายามใช้ทรัพยากรจากท้องถิ่น ลดการขนส่ง ใช้สารเคมีให้น้อยลง หรือไม่ใช่เลย มีการนำส่วนที่เสียไป Recycle ได้ และท้ายที่สุด การออกแบบ ที่คำนึงถึงผลกระทบ ต่อวัตถุดิบ โดยดูทั้งวงจรของสินค้า ตั้งแต่ ผลิต – ใช้งาน – การกำจัด
              ด้านอุตสาหกรรมอาหาร​ไทยต้อง​เป็น​เลิศ​ใน​การผลิต​และ​การรักษาระบบ Green Productivity ​เพื่อ​การผลิตอาหารอย่างยั่งยืน ​โครง​การยกระดับ​การ​แข่งขันอุตสาหกรรมอาหาร​ไทยด้วย​การลดต้นทุน​และ​เป็น มิตรต่อสิ่ง​แวดล้อม ​เพิ่มประสิทธิภาพ​การผลิตสินค้าอาหารคุณภาพด้วย Supply Chain Management  ด้านผู้ประกอบการระบบโลจิสติก ที่ต้องขนส่งสินค้าในและระหว่างประเทศ AEC ใช้แนวทางการขนส่งแบบสีเขียวที่เน้นการใช้ เชื้อเพลิงที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษแก่สิ่งแวดล้อมเช่น การใช้รถเชื้อเพลิงแบตเตอรี่ รถเชื่อเพลิงก๊าซธรรมชาติอัด (NGV) หรือรถใช้เชื้อเพลิงแอลกอฮอล์ หรือ E100 เป็นต้น นอกจากนั้นต้องปรับการบริหารจัดการให้ลดการขนส่งวิ่งรถเปล่าในขากลับ รวมไปถึงการใช้รถ Eco-car, Hybrid car หรือ Electric car ให้เหมาะสมกับการขนส่งแต่ละประเภท ทั้งในโรงงานและนอกโรงงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ               
รัฐบาล ควรให้ความสำคัญกับนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจังขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนโยบายส่งเสริมการประหยัดอนุรักษ์พลังงาน การส่งเสริมธุรกิจสีเขียว การผลิตสินค้าเกษตรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการผลิตสินค้าที่ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม  รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อช่วยสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจสีเขียว มีนโยบายภาษี มาตรการอุดหนุนภาครัฐ นโยบายต่อพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก เป็นต้น
:จารีนทร์  เอี่ยมสุภาษิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น